การแข่งขันมหกรรมฟุตบอลโลกครั้งล่าสุดที่พึ่งเกิดขึ้นมา นั่นก็คือ ฟุตบอลโลก ครั้งที่ 21 ที่จัดขึ้นที่ประเทศรัสเซีย ซึ่งแน่นอนว่าแฟนฟุตบอลต่างก็รอยคอยทัวร์นาเมนฟุตบอล ที่ยิ่งใหญ่ที่สุดในโลกอย่างทัวร์นาเมนฟุตบอลโลก โดยจะจัดขึ้นทุกๆ 4 ปี ซึ่งผู้ที่เป็นผู้ชนะเลิศการแข่งขันฟุตบอลโลกในครั้งนี้ นั้นก็คือทีมชาติฝรั่งเศส ซึ่งเป็นแชมป์ฟุตบอลโลกสมัยที่ 2 ของพวกเขา ซึ่งในวันนี้เราจะพาทุกท่านมาชมกันว่า เส้นทางการเดินทางของทีมชาติฝรั่งเศส ในรายการฟุตบอลโลกสด กว่าจะฝ่าฟันทีมชาติต่างๆจนมาถึงตำแหน่ง แชมป์ฟุตบอลโลก 2018 พวกเขาผ่านอะไรมาบ้าง
ขุนพลตัวหลัก
ผู้รักษาประตู ใช้ตัวเก๋า วัย 32 ปี อย่าง ฮูโก้ โลริส จากสโมสร ท็อตแนม ฮอตสเปอร์ในประเทศอังกฤษ กองหลังเซ็นเตอร์แบ็ค 2 ตัวใช้ ราฟาเอล วาราน จับคู่กับ ซามูเอล อูมตีตี้ ซึ่งทั้งคู่นั้นเล่นให้กับ 2 ทีมดังจากสเปน อย่าง เรอัล มาดริด และบาร์เซโลน่า ส่วนแดนกลางนำมาโดย เอ็นโกโล่ กองเต้ จากสโมสรเชลซี และมิดฟิลค่าตัวแพง อย่างพอล ปอกบา จากแมนเชสเตอร์ยูไนเต็ด ตัวรุกนำทีมมาโดย อองตวน กรีซมัน ศูนย์หน้าตัวแบกทีมของสโมสร แอต มาดริด ในเวลานั้น และเด็กนรกแตกอย่าง เอ็มปัปเป้ ที่ในขณะนั้นมีอายุเพียง 19 ปี
รอบคัดเลือกโซนยุโรป
ฝรั่งเศสนั้น เป็นทีมฟุตบอลที่แข็งแกร่งที่สุดในกลุ่มเลยก็ว่าได้ เพราะอีก 5 ทีมที่อยู่ร่วมสายนั้น ประกอบไปด้วย สวีเดน , บัลแกเรีย , เบลารุส , ลักเซมเบิร์ก และเนเธอร์แลนด์ ซึ่งกองทัพตราไก่ ก็สามารถเข้าไปสู่การแข่งขันฟุตบอลโลกรอบสุดท้าย ที่ประเทศรัสเซียได้ ด้วยผลงาน ชนะ 7 เสมอ 2 แพ้ 1 เก็บได้ 32 คะแนน
รอบแบ่งกลุ่ม
เมื่อได้ 32 ทีมสุดท้ายที่สามารถตีตั๋วเข้าไปเล่นในมหกรรมฟุตบอลโลกครั้งที่ 21 ได้แล้วนั้น ทีมชาติฝรั่งเศส ก็ถูกจัดเป็นทีมเต็งลำดับที่ 3 ร่วมกับทีมชาติสเปน ที่มีโอกาสคว้า แชมป์ฟุตบอลโลก 2018 โดยทีมชาติฝรั่งเศสนั้นถูกจับฉลากอยู่กลุ่ม C ซึ่งประกอบไปด้วย ฝรั่งเศส , เดนมาร์ก , เปรู และ ออสเตรเลีย ซึ่งดูจากชื่อชั้นแล้วนั้น ทีมชาติฝรั่งเศสแข็งแกร่งกว่าทุกทีม และก็สามารถเข้ารอบ 16 ทีมสุดท้ายในการแข่งขันครั้งนี้ไปได้ ด้วยการเป็นแชมป์กลุ่ม มี 7 คะแนน ประกอบไปด้วย ชนะ 2 เสมอ 1 ไม่แพ้ทีมใดเลย ซึ่งผลการแข่งขันมีดังนี้
- ฝรั่งเศส 2 – 1 ออสเตรเลีย
- ฝรั่งเศส 1 – 0 เปรู
- ฝรั่งเศส 0 – 0 เดนมาร์ก
รอบ 16 ทีมสุดท้าย
ทีมชาติฝรั่งเศส เข้ามาพบกับทีมอันดับที่ 2 ของกลุ่ม D ซึ่งก็เป็นอีกหนึ่งทีมเต็งที่มาจากทวีปอเมริกาใต้ อย่างทีมชาติอาเจนติน่า ที่นำทัพมาโดยนักเตะเบอร์ 1 ของโลก อย่าง ลีโอเนล เมสซี่ ซึ่งการแข่งขันในนัดนี้นั้น ถือว่า เป็นการแข่งขันที่สนุกที่สุดในรอบ 16 ทีมสุดท้ายเลยก็ว่าได้ เพราะทั้งสองนั้นต่างทำกุมรุกเข้าหากันอย่างสุดมัน ผลัดกันรุก ผลัดกันรับ ผลัดกันนำผลัดกันตาม ซึ่งถึงแม้ว่า ทีมชาติอาเจนติน่า จะเป็นฝ่ายครองเกมได้เหนือกว่า แต่ทว่าทีมชาติฝรั่งเศส อาศัยการจบสกอร์ที่แน่นอนกว่า เบียดชนะทีมชาติอาเจนติน่า เข้ารอบ 8 ทีมสุดท้ายไปได้ ซึ่งผลการแข่งขันก็คือ
- ฝรั่งเศส 4 – 3 อาเจนติน่า
รอบ 8 ทีมสุดท้าย
ในรอบนี้ทีมชาติฝรั่งเศส เจอกับทีมชาติอุรุกวัย ซึ่งเป็นแชมป์ของกลุ่ม A โดยทีมจอมโหด อุรุกวัยนั้น นำทัพมาโดย 2 กองหน้าจอมถล่มประตูอย่าง หลุย ซัวเรส และ อีดินสัน คาวานี่ ซึ่งเกมในนัดนี้ก็เป็นอีกเกมที่ทีมชาติฝรั่งเศส โชว์ความแน่นอนในการจบสกอร์ รวมถึงการครองบอลที่ทำได้ดีกว่าทีมชาติอุรุกวัย ทำให้ทัพตราไก่ ผ่านเข้าสู่รอบตัดเชือกได้สำเร็จ โดยผลสกอร์ของนัดนี้ก็คือ
- ฝรั่งเศส 2 – 0 อุรุกวัย
รอบรองชนะเลิศ
ในรอบนี้ ทีมชาติฝรั่งเศสโคจร มาพบกับม้ามืด อย่าทีมชาติเบลเยี่ยม ซึ่งเป็นแชมป์กลุ่ม G โดยทีมชาติเบลเยี่ยมนั้นเป็นทีมที่ประมาทไม่ได้ เนื่องจากมีซุปเปอร์สตาร์ ที่เล่นให้กับทีมชั้นนำของยุโรปมากมาย อีกทั้งยังเอาชนะทีมชาติอังกฤษในรอบแบ่งกลุ่มมาแล้ว โดยในการแข่งขันนัดนี้ ทีมชาติฝรั่งเศส ใช้โอกาสจากลูกตั้งเตะ เบียดชนะทีมชาติเบลเยียมไปได้ ซึ่งผลการแข่งขันของนัดนี้นั่นก็คือ
- ฝรั่งเศส 1 – 0 เบลเยี่ยม
รอบชิงชนะเลิศ
ทีมชาติฝรั่งเศส จะได้ชิงกับอีกหนึ่งม้ามืดของทัวร์นาเมน ที่สามารถเข้ารอบชิงชนะเลิศฟุตบอลโลกครั้งแรกในประวัติศาสตร์ นั่นก็คือ ทีมชาติโครเอเชีย ซึ่งนำทัพมาโดย เพลเมกเกอร์ ชื่อดังของสโมสร เรอัล มาดริด ที่สามารถล้มทีมดังมามากมายหลายทีมจนเข้ามาชิงชนะเลิศได้ ซึ่งการแข่งขันในนัดนี้ ทีมชาติโครเอเชียครองบอล บุกเข้าใส่ทีมชาติฝรั่งเศส เพื่อจะคว้าแชมป์ฟุตบอลโลกสมัยแรกในประวัติศาสตร์ให้ได้ แต่ทีมชาติฝรั่งเศสนั้นรับมือได้เป็นอย่างดี ทำให้ทีมชาติฝรั่งเศสเอาชนะทีมชาติโครเอเชียได้ในที่สุด โดยผลสกอร์ที่ออกมานั้นก็คือ
- ฝรั่งเศส 4 – 2 โครเอเชีย
การคว้า แชมป์ฟุตบอลโลก 2018 ของทีมชาติฝรั่งเศสในครั้งนี้นั้น เป็นการคว้าแชมป์สมัยที่ 2 และโค้ชอย่าง ดิดิเย่ เดชอง ก็เป็นคนแรก ที่สามารถคว้าแชมป์ฟุตบอลโลก ทั้งในฐานะโค้ช และฐานะนักเตะ เพราะฟุตบอลโลกปี 1998 เขาก็เป็นกัปตันทีมในชุดนั้น และก็สามารถพาทีมชาติฝรั่งเศสคว้าแชมป์ฟุตบอลโลกสมัยแรกได้ แมตซ์ฟุตบอลโลกน่าจดจำ ส่วนการแข่งขันฟุตบอลโลก ในปี 2022 นั้น ทีมชาติฝรั่งเศส จะทำผลงานได้ดีแค่ไหน จะสามารถป้องกันแชมป์ได้หรือไม่ ก็คงต้องติดตามกันต่อไป
อ้างอิง
https://en.wikipedia.org/wiki/2018_FIFA_World_Cup